Realme Book Prime จะวางขายทั่วโลก เมษายนนี้

Realme Book Prime จะวางขายทั่วโลก เมษายนนี้

หลังจากที่วางขายเฉพาะภายในประเทศจีนไปแล้วนั้น Realme Book Prime จะทำการวางขายทั่วโลกอย่างเป็นทางการ ภายในช่วงเดือนเมษายน 2565 นี้ (21 ก.พ. 2565) หลังจากที่ Realme ได้ประกาศเปิดตัวเข้าตลาดแล็ปท็อป/โน็ตบุ๊คกันไปเมื่อปีที่แล้ว และเมื่อต้นปีนี้บริษัทก็ได้ทำการปล่อยตัวโน็ตบุ๊ครุ่นใหม่ Realme Book Enhanced Edition ซึ่งวางขายเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น แต่ก็ได้มีการรายงานล่าสุดมาว่าโน็ตบุ๊ครุ่นดังกล่าวจะได้รับการปล่อยขายทั่วโลก ภายในช่วงเดือนเมษายน 2565 นี้

โดยจะใช้งานชื่อว่า Realme Book Prime ซึ่งมันจะเป็นตัวผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการอัปเกรดมาจากรุ่น Realme Book (หรือที่ใช้งานชื่อ Book Slim ในประเทศอินเดีย)

สเปคในเบื้องต้นนั้น จะมีการใช้งาน CPU shoppingmode Intel รุ่นที่ 11 – i5-11320H ที่จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากรุ่น Realme Book : 10% (Single Thread) – 20% (Multi-Core) รวมไปถึงระบบระบายความร้อนแบบพัดลมคู่ด้วย โดยตัวรุ่นนี้จะวางขายโดยใช้งาน RAM 16GB และหน่วยความจำ SSD 512GB

ทางด้านของราคานั้น ที่วางขายในประเทศจีนก็อยู่ที่ 4,700 หยวน หรือ 23,836.93 บาท ($740/€655/INR55,000) ผู้ที่สนใจแบรนด์ Realme หรือต้องการโน็ตบุ๊คขนาดเบาทางเลือกอื่น ๆ แล้วละก็ รอติดตามกันได้เลยนะครับ

ปิดท้ายกับการสานต่อวิสัยทัศน์ Galaxy for the Planet กับครั้งแรกของซัมซุงที่นำอวนจับปลาที่ถูกทิ้งใต้ท้องมหาสมุทรมาแปรรูปเพื่อเป็นชิ้นส่วนหนึ่งใน Galaxy S22 series และ Galaxy Tab S8 series พร้อมทั้งยังมีการใช้วัสดุรีไซเคิลจากผลิตภัณฑ์เหลือใช้ของผู้บริโภค เพื่อนำมาผลิตเป็นโมดูลลำโพง ชิ้นส่วนด้านในปุ่มเปิด-ปิด หรือปรับเสียง

รวมถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการดีไซน์ให้บางลง และผลิตจากกระดาษรีไซเคิลทั้งหมด 100% ฟิล์มป้องกันที่ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิล และเคสสมาร์ทโฟน Galaxy S22 series ที่ได้รับการออกแบบจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานการรับรอง UL-certified ไม่ว่าจะเป็น พลาสติกรีไซเคิลจากผลิตภัณฑ์เหลือใช้ หรือพลาสติกชีวภาพ

ซึ่งทั้งหมดนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของซัมซุงในการสร้างนวัตกรรมที่มีจุดมุ่งหมายอย่างแท้จริง พร้อมมีเซอร์ไพรส์จากหนุ่มๆ บังทัน (BTS) มาชวนพวกเราให้รักษ์โลกไปด้วยกันอีกด้วย

ถือว่าเป็นจริงก็ว่าได้กับข่าวที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ ที่ Capcom ได้ทำการนับถอยหลังในการเปิดตัวเกมส์ต่อสู้ภาคใหม่ – Street Fighter 6 (21 ก.พ. 2565) จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่า เว็บไซต์นับถอยหลังที่ Capcom ได้ทำปล่อยตัวออกไปนั้น ก็เพื่อที่จะเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเกมส์ต่อสู้ภาคใหม่ – Street Fighter 6 ซึ่งข่าวที่ว่านั้นก็เป็นจริง

โดยการเปิดตัวอย่างทางการดังกล่าวนั้น เป็นเพียงแค่การเปิดตัวเรียกน้ำย่อยเท่านั้น โดยมีเพียงแค่โลโก้ และตัวอย่าง Teaser เท่านั้น ซึ่งทาง Capcom ได้เปิดเผยเพียงแค่ว่า ข่าวรายละเอียดของตัวเกมส์นั้นจะทำการเปิดเผยภายในช่วงฤดูร้อนปี 2022 (2565) นี้ ผู้ที่เป็นแฟนของซีรีส์นี้ก็ต้องมารอดูกันว่าตัวเกมส์ภาคใหม่นี้จะมีการเปลี่ยนแปลง พัฒนาเพิ่มเติมต่อยอดตรงไหนกันบ้าง และตัวเกมส์นั้นจะปล่อยให้ได้เล่นกันเมื่อไหร่ คาดว่าเราจะได้รู้กันภายในเร็ว ๆ นี้

ลือ! iPhone 14 Series จะทิ้งการใช้งาน Touch ID

มีการลือกันมาว่า shoppingmode Apple จะลดความสำคัญในการพัฒนาการใช้งานระบบ Touch ID ใต้หน้าจอ ทำให้ iPhone 14 Series นั้นอาจจะไม่มีการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวด้วย (21 ก.พ. 2565) มีการรายงานข่าวลือที่ว่ากันว่า iPhone 14 นั้น อาจจะไม่มีการใช้งานระบบ Touch ID ใต้หน้าจอ เนื่องจากว่า shoppingmode Apple นั้น ได้ลดระดับความสำคัญในการพัฒนาระบบดังกล่าวลงไป เพื่อเน้นให้กับระบบที่มีความใกล้เคียงกันที่พวกเขามองว่าดีที่สุด

ข่าวดังกล่าว ก็มาจากเว็บไซต์ข่าว iDropNews โดยไม่ได้ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าทำให้บริษัทถึงได้ลดความสำคัญในการพัฒนาระบบ Touch ID ใต้หน้าจอ แต่ก็พอจะคาดการณ์กันได้ว่า Apple นั้น จะหันไปเน้นในการพัฒนาระบบ Face ID แทน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีการรายงานว่าสมาร์ทโฟนรุ่นที่ 14 นั้นอาจจะมีการใช้งานฟีเจอร์ Face ID แบบใต้หน้าจอ แต่ก็มีข้อแม้ว่าถ้าเทคโนโลยีที่ว่ายังไม่ตอบรับกับความต้องการของ Apple แล้วละก็ มันก็จะไม่ถูกนำมาใช้งานด้วยเช่นกัน

โดยในเวลานี้ ระบบ Face ID แบบใต้หน้าจอนั้น ถือว่ายังคงไม่เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากมันอาจจะส่งผลกระทบขนานใหญ่ในคุณภาพของกล้องหน้าตัวเครื่อง และตัว Apple เองก็ถือว่าเป็นบริษัทที่ใช้เวลาในการปรับใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ช้ากว่าคู่แข่ง ทำให้ฟีเจอร์บางตัวนั้นมักจะถูกใช้งานในตัวมือถือหลายรุ่นก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกทีหนึ่ง

มาในส่วนของ ระบบ Touch ID ใต้หน้าจอนั้น ดูเหมือนว่า Apple จะทำการละทิ้งไปเนื่องจากความเร็วในการยืนยันที่ช้ากว่าตัวระบบทั่วไป รวมไปถึงเหตุผลอื่น ๆ ที่มีความเป็นไปได้ เช่น ปัญหาความปลอดภัย, ราคา/งบประมาณที่แพงเกินไป ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม iPhone 14 Series ยังถือว่าห่างไกล และยังคงต้องรอดูกันอีกทีหนึ่ง โดยเราอาจจะได้เห็นฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่มาทดแทนก็เป็นได้

ในส่วนของระยะเวลาในการใช้งานนั้น (1) จะสามารถใช้งานได้นานเต็มที่ 4 ชั่วโมง เมื่อทำการเปิดใช้งานฟังก์ชั่น ANC เต็มที่ และจะสามารถใช้ได้นาน 5.7 ชม. เมื่อปิดการใช้งาน ANC ทางด้านของกล่องเก็บชาร์จหูฟังนั้น จะช่วยให้สามารถใช้งานได้นานโดยรวมถึง 34 ชม. โดยทำการชาร์จไฟผ่านทาง USB-C หรืออุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าไร้สายแบบ Qi

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป